รวมสูตรพริกแกง รสเด็ดจัดจ้าน เครื่องแกงจัดเต็ม!!

พริกแกง หนึ่งในเครื่องปรุงสำคัญของอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นประเภทแกงส้ม ผัดเผ็ด แกงคั่ว แกงกะทิ การจะทำแกงเหล่านี้ให้มีรสชาติเข้มข้น หัวใจสำคัญก็คือพริกแกงนั่นเอง จะต้องถึงเครื่อง มีความหอม รสชาติกลมกล่อม โดดเด่น มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร มาเจาะลึกโครงสร้างของสูตรพริกแกง อาหารแต่ละชนิดต้องใช้พริกแกงอะไรบ้าง กว่าจะมาเป็นพริกแกงต้องผ่านขั้นตอนการโขลกนานแค่ไหน และส่วนผสมพริกแกงมีอะไรบ้าง เรามาดูกันเลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

สูตรพริกแกงเผ็ด

พริกแกงเผ็ด เป็นพริกแกงที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมาก น้ำแกงสีแดง มีรสเผ็ด รสเค็ม สูตรพริกแกงเผ็ดมักจะปรุงให้มีรสชาติเผ็ดจัดจ้านเหมือนแกงป่า ใช้พริกแห้งพันธุ์พริกบางช้าง มีเครื่องเทศเยอะแยะมากมาย ให้ความรู้สึกเผ็ดร้อน และสามารถตัดกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้อย่างดี เนื้อสัตว์ที่นิยมนำมาใช้กับแกงเผ็ดมักจะเป็นเนื้อวัว เป็ด หมู ไก่และสัตว์ป่า โดยเฉพาะเนื้อหมูป่า นกกระทา เนื้อจระเข้ พริกแกงเผ็ดยังมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับอาการอักเสบ เช่น โรครูมาตอยด์ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และยังช่วยชะลอความเสื่อมในร่างกายได้อีกด้วย

วัตถุดิบพริกแกงเผ็ด

 • พริกชี้ฟ้าแห้ง 10 เม็ด

 • พริกไทย 10 เม็ด

 • หอมแดง 40 กรัม

 • กระเทียมไทย 15 กรัม

 • รากผักชี 2 กรัม

 • ผิวมะกรูด 1/4 ช้อนชา

 • ลูกผักชี 12 กรัม

 • ยี่หร่า 1 กรัม

 • ตะไคร้ 6 กรัม

 • ข่า 6 กรัม

 • ลูกจันทร์ 1/8 ช้อนชา

 • เกลือ 1/2 ช้อนชา

 • กะปิ 1 ช้อนชา

วิธีทำพริกแกงเผ็ด

 • นำกระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้มาสับให้ละเอียด

 • หั่นพริกแห้งเป็นชิ้นเล็กๆ ตำให้พอแหลก ตามด้วยข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด เกลือ โขลกให้เข้ากันจนแหลกละเอียด

 • ใส่กระเทียม หอมแดง และส่วนผสมอื่นๆแล้วตำให้ละเอียด

 • ใส่กะปิลงไปตำให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน

สูตรพริกแกงส้ม

เมนูแกงส้มถือเป็นเมนูปราบเซียนสำหรับพ่อครัวแม่ครัวเลย ใครจะทำออกมาได้อร่อยหรือรสชาติจืดชืด ขึ้นอยู่กับพริกแกงเลยค่ะ สำหรับสูตรพริกแกงส้ม รสชาติต้องเผ็ดจัดจ้าน มีกลิ่นหอมจากหอมแดงและกระชาย ได้รสเค็มจากกะปิ เมื่อนำไปปรุงอาหารแล้วก็จะเติมรสเปรี้ยวจากน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็จะทำให้น้ำแกงส้มอร่อยกลมกล่อมได้อย่างลงตัว

วัตถุดิบพริกแกงส้ม

 • พริกชี้ฟ้าแห้งเม็ดใหญ่ 15-20 เม็ด

 • พริกจินดาแห้ง 10 เม็ด

 • หอมแดง 10-15 หัว

 • กระชาย 5-6 ชิ้น

 • เกลือ 1/2 ช้อนชา

 • กะปิ 1-2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำพริกแกงส้ม

 • นำพริกชี้ฟ้าแดงแห้ง และพริกจินดาแห้งมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แกะเอาเม็ดพริกออกแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ให้นิ่มลง

 • น้ำพริกขึ้นให้สะเด็ดน้ำ ใส่ลงไปในครก แล้วตำให้ละเอียด

 • ใส่หอมแดง ตามด้วยกระชายที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ โขลกให้เข้ากัน

 • เติมกะปิ เกลือและตำให้เป็นเนื้อเดียวกัน

สูตรพริกแกงพะแนง

มาถึงสูตรพริกแกงที่หลายคนอาจจะเพิ่งเคยได้ยิน พริกแกงพะแนง เป็นแกงเผ็ดที่มีน้ำขลุกขลิก รสชาติไม่เผ็ดมาก มักจะปรุงออกมาให้ได้รสหวานนำ แกงพะแนงเป็นแกงที่ไม่นิยมใส่ผัก ใส่แค่พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูดและเนื้อสัตว์ บางสูตรใส่ถั่วลิสงคั่วป่นเพื่อให้น้ำแกงเข้มข้น มีรสมัน และใส่ใบโหระพาเพื่อเพิ่มความหอม ที่สำคัญแกงพะแนงยังช่วยบรรเทาไข้หวัด ช่วยขับลม ทำให้เลือดลมไหลเวียนได้ดี และช่วยในการย่อยอาหารด้วย

วัตถุดิบพริกแกงพะแนง

 • พริกชี้ฟ้าแห้ง 10 เม็ด

 • หอมแกง 40 กรัม

 • กระเทียมไทย 15 กรัม

 • รากผักชี 12 กรัม

 • พริกไทย 10 เม็ด

 • ตะไคร้ 6 กรัม

 • ข่า 6 กรัม

 • ยี่หร่า 1 กรัม

 • ลูกผักชี 4 กรัม

 • ผิวมะกรูด 1/4 ช้อนชา

 • ดอกจันทร์ 1/8 ช้อนชา

 • ถั่วลิสงคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ

 • ลูกจันทร์ 1/8 ช้อนชา

 • เกลือ 1/2 ช้อนชา

 • กะปิ 1 ช้อนชา

วิธีทำพริกแกงพะแนง

 • นำกระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้มาสับให้ละเอียด

 • หั่นพริกแห้งเป็นชิ้นเล็กๆ ตำให้พอแหลก ตามด้วยข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด เกลือ โขลกให้เข้ากันจนแหลกละเอียด

 • ใส่กระเทียม หอมแดง และส่วนผสมอื่นๆแล้วตำให้ละเอียด

 • ใส่กะปิลงไปตำให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน

สูตรพริกแกงเขียวหวาน

พริกแกงไม่ได้มีแค่สีแดงค่ะ ยังมีพริกแกงเขียวหวานที่เป็นสีเขียวนวลสวย ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะมากๆ เพราะน้ำแกงจะเป็นสีเขียวอ่อน สีที่ได้จากพริกชี้ฟ้าสดสีเขียว พร้อมกับพริกขี้หนูสดสีเขียว แกงเขียวหวานจะมีรสเผ็ดนำ รสเค็มและมัน วิธีโขลกพริกแกงเขียวหวานจะใช้วิธีเดียวกันกับแกงเผ็ด แต่รสชาติของแกงเขียวหวานจะจัดจ้านกว่า มีสมุนไพรที่มีฤทธิ์แก้จุกเสียด ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยในการเจริญอาหาร รสเผ็ดร้อนของพริกแกงจะช่วยขับลม และขับเหงื่อได้ด้วย

วัตถุดิบพริกแกงเขียวหวาน

 • พริกชี้ฟ้าเขียว 2 เม็ด

 • พริกขี้หนูสดเขียว 10-15 เม็ด

 • หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ

 • กระเทียม 10 กลีบ

 • ตะไคร้ 2 ช้อนโต๊ะ

 • ข่า 2 ช้อนโต๊ะ

 • ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา

 • กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ

 • เกลือ 1/4 ช้อนโต๊ะ

 • รากผักชี 3 ราก

 • ยี่หร่า 1/4 ช้อนโต๊ะ

 • ลูกผักชี 1/3 ช้อนโต๊ะ

 • ขมิ้นชัน 5 แว่นเล็ก

วิธีทำพริกแกงเขียวหวาน

 • น้ำพริกชี้ฟ้าเขียวมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

 • โขลกเม็ดยี่หร่า ลูกผักชี เกลือ รากผักชี ข่าให้ละเอียด

 • ใส่ผิวมะกรูด ตะไคร้ลงไป ตำให้ละเอียด

 • ใส่พริกชี้ฟ้าเขียว ตามด้วยพริกขี้หนูลงไป ตำให้ละเอียด แล้วใส่ขมิ้นชัน จะทำให้มีสีเขียวสวยขึ้น

 • ใส่หอมแดง กระเทียมลงไป ตำจนละเอียดเข้ากันดี ปิดท้ายด้วยกะปิ ตำจนเป็นเนื้อเดียวกัน

สูตรพริกแกงมัสมั่น

แกงมัสมั่น ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารไทยที่อร่อยที่สุดในโลก เป็นแกงกะทิใส่เครื่องแกงและเครื่องเทศที่ชาวเปอร์เซียนำเข้ามา เพื่อให้ปรับเข้ากับรสชาติของคนไทย คนภาคกลางจึงนำมาปรุงให้ถูกปากมากยิ่งขึ้น ในสมัยโบราณแกงมัสมั่นเป็นแกงที่ไม่ได้ทำกันบ่อย นิยมทำสำหรับงานเลี้ยงหรือรับรองแขก เพราะต้องอาศัยความชำนาญ เนื่องจากมีส่วนผสมและวิธีทำค่อนข้างซับซ้อน หากทำผิดวิธีก็อาจจะทำให้แกงเสียรสชาติได้เลย แกงมัสมั่นที่อร่อยจะต้องเป็นแกงกะทิที่น้ำข้น ที่สำคัญต้องมีน้ำมันลอยหน้าถึงจะดูน่ากิน ส่วนมากจะนิยมใช้เป็นเนื้อไก่และเนื้อวัว กินคู่กับขนมปัง ข้าวตังทอด ข้าวเกรียบ หรือจะทานข้าวก็อร่อยไม่แพ้กัน สีของพริกแกงมัสมั่นจะออกเป็นสีแดงเข้ม คล้ายๆกับน้ำพริกเผา วิธีทำมัสมั่นอาจจะดูยาก แต่สูตรพริกแกงขอบอกเลยว่าไม่ยากเท่าไหร่ อาจจะดูใช้ส่วนผสมเยอะ แต่วิธีโขลกเหมือนกับพริกแกงอื่นๆเลย ด้วยเครื่องเทศต่างๆ มากมาย ที่มีสรรพคุณช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยขับลม ขับเสมหะ ลดไขมันในเลือด และยังบำรุงตับและปอดด้วย 

วัตถุดิบแกงมัสมั่น

 • พริกชี้ฟ้าแดงแห้ง 5-6 เม็ด

 • พริกขี้หนูแดงแห้ง 9-10 เม็ด

 • หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ

 • กระเทียมไทย 2 ช้อนโต๊ะ

 • ตะไคร้ 2 ช้อนโต๊ะ

 • ข่า 1 ช้อนโต๊ะ

 • ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา

 • ลูกผักชี 1 ช้อนโต๊ะ

 • ยี่หร่า 1 ช้อนโต๊ะ

 • ลูกจันทร์ 1 ลูก

 • ลูกกระวาน 5 ลูก

 • ดอกจันทร์ 1 ดอก

 • อบเชย 2 ท่อน

 • กานพลู 2 ดอก

 • กะปิ 1/3 ช้อนโต๊ะ

 • เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำพริกแกงมัสมั่น

 • ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย นำข่า ตะไคร้ หอมแดง กระเทียมลงไปทอดให้มีสีเหลืองทอง

 • หั่นพริกชี้ฟ้าแดงแห้งและพริกขี้หนูแห้งให้เป็นชิ้นเล็กๆ แกะเอาเม็ดพริกออกแล้วใส่ลงในกระทะ ทอดจนกรอบ ตักขึ้นพักไว้

 • ตักน้ำมันออกจากกระทะแล้วใส่ดอกจันทร์ ลูกจันทร์ ลูกกระวาน ยี่หร่า ลูกผักชี อบเชย กานพลู ลงไปคั่วให้มีกลิ่นหอม

 • เมื่อคั่วเสร็จแล้วให้เทลงใส่ครก โขลกให้ละเอียด ลูกกระวานให้กระเทาะเอาเปลือกออกก่อน แล้วใช้แต่ลูกกระวานที่อยู่ด้านใน

 • นำกระเทียม ข่า หอมแดง ตะไคร้ ผิวมะกรูด พริกขี้หนูแห้งและพริกชี้ฟ้าแกงที่ได้ทอดเอาไว้ ใส่ตามลงไปในครกแล้วตามด้วยเกลือ จากนั้นทำการโขลกให้ละเอียด

• ใส่กะปิลงไปแล้วโขลกส่วนผสมให้เข้ากันจนละเอียด

สูตรพริกแกงคั่ว

แกงคั่ว เป็นแกงโบราณที่มีอยู่ในแถบภาคกลางมานาน สามารถทำเป็นแกงราดข้าว หรือจะกินคู่กับขนมจีนก็ได้ เมนูที่นิยมมากที่สุดก็คือแกงคั่วใบขี้เหล็ก จะมีรสเค็มและหวานเล็กน้อย สีของพริกแกงคั่วจะออกเป็นสีส้มเข้ม ไม่ถึงกับแดงไปเลยทีเดียว หากใส่กะทิน้ำแกงที่ได้จะเป็นสีเหลืองอมส้ม สวยน่ากินเลยทีเดียว

วัตถุดิบพริกแกงคั่ว

 • พริกชี้ฟ้าแห้ง 5 เม็ด

 • หอมแดง 35 กรัม

 • กระเทียมไทย 8 กรัม

 • รากผักชี 2 กรัม

 • พริกไทย 10 เม็ด

 • ข่า 4 กรัม

 • ตะไคร้ 2 กรัม

 • ผิวมะกรูด 1/2 ช้อนชา

 • เกลือ 1/2 ช้อนชา

 • กะปิ 1/2 ช้อนชา

 • ปลากรอบ 6 กรัม

วิธีทำพริกแกงคั่ว

 • นำกระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้มาสับให้ละเอียด

 • หั่นพริกแห้งเป็นชิ้นเล็กๆ ตำให้พอแหลก ตามด้วยข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด เกลือ โขลกให้เข้ากันจนแหลกละเอียด

 • ใส่กระเทียม หอมแดง และส่วนผสมอื่นๆแล้วตำให้ละเอียด

 • ใส่กะปิลงไปตำให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน

เทคนิคการโขลกพริกแกง

จะทำเครื่องแกงให้อร่อย สูตรพริกแกงต้องแม่น แต่การโขลกเครื่องแกงก็ถือว่าเป็นเทคนิคที่จะช่วยให้เครื่องแกงเข้ากันดี และดึงรสชาติของเครื่องเทศออกมาได้มากขึ้น การโขลกเครื่องแกงที่ดีควรทำตามลำดับขั้นตอนดังนี้

1. โขลกพริกแห้งกับเกลือจนละเอียดก่อน

2. ควรโขลกส่วนผสมที่ค่อนข้างแข็งก่อนอย่างเช่น ตะไคร้ ขมิ้น ข่า ผิวมะกรูด รากผักชี และก่อนนำลงไปโขลก ควรทำการหั่นให้ส่วนผสมนั้น ๆ เป็นชินเล็กๆ ก่อน จะทำให้โขลกได้ละเอียดและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

3. ใส่หอมแดงและกระเทียมทีหลังสุด เพราะมีน้ำเป็นองค์ประกอบ จะทำให้โขกยาก อาจจะกระเด็นเข้าตาได้ง่าย และใส่กะปิตามไป

4. สำหรับเครื่องเทศแห้งอย่างเช่น ลูกผักชี อบเชยและยี่หร่า ควรคั่วให้มีกลิ่นหอมและโขลกให้ทั้งหมดละเอียด ก่อนนำมาโขลกรวมกับเครื่องแกงอื่น ๆ ภายในครก

5. หากใส่ปลากรอบหรือกุ้งแห้งด้วย ให้โขลกให้ละเอียดก่อนแล้วค่อยนำมาโขลกรวมกับส่วนผสมอื่นๆ จะทำให้โขลกได้ง่ายขึ้น

การโขลกพริกแกงให้ละเอียดจะช่วยให้แกงของเรามีความนุ่มนวลขึ้น สีสวย แกงมีรสชาติกลมกล่อมมากขึ้น แต่ถ้าใครไม่มีครก หรือไม่มีเวลามากพอที่จะมาเตรียมส่วนผสม ก็จะมีสูตรพริกแกงแบบสำเร็จให้เลือกมากมาย หรือจะใช้เครื่องปั่น ปั่นส่วนผสมให้ละเอียดเข้ากันก็ได้ แต่ความหอมอาจจะได้น้อยกว่าการโขลกด้วยครก เมื่อได้พริกแกงที่มีความเข้มข้นแล้ว รับรองว่าอาหารที่ทำรสชาติดีแน่นอนค่ะ

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ EatAllAround