Cadence by Dan Bark ร้านอาหาร Fine dining ระดับ Michelin Star 

Cadence by Dan Bark ร้านอาหาร Fine dining ระดับ Michelin Star 

หากกล่าวถึงร้านอาหาร Cadence by Dan Bark ก็เชื่อว่าหลายคนก็น่าจะพอรู้จักมักคุ้นกันอยู่บ้าง เพราะเขาเป็นร้านอาหารชื่อดังที่ได้รับรางวัล Michelin Star 1 ดวงมาการันตีความอร่อย กับรูปแบบอาหารอเมริกัน Fine dining ชวนลิ้มลอง หากคุณกำกำลังตามหารีวิวร้านนี้อยู่ก็อย่าได้พลาดสิ่งที่เรานำมาฝากในวันนี้เด็ดขาด!  

ติดตามเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้จักกับ Cadence by Dan Bark ร้านอาหารอเมริกัน ระดับ Michelin Star น่าสนใจ 

Cadence by Dan Bark

Cadence by Dan Bark เป็นร้านอาหารสไตล์ Progressive American Cuisine ที่ตั้งอยู่ในซอยปรีดีพนมยงค์ 25 บนถนนสุขุมวิท 71 ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยโอปป้าเกาหลีสัญชาติอเมริกันอย่างเชฟ Dan Bark บอกเลยว่าร้านอาหารชื่อดังแห่งนี้การการันตีความอร่อยจาก Michelin Star และยังอบอวลไปด้วยบรรยากาศหรูหรา แต่เรียบง่าย ดึงดูความสนใจประชาชนที่ชื่นชอบการทานอาหารเป็นคอร์สอย่างยิ่ง 

วิธีการเดินทาง 

สำหรับท่านที่อยากเดินทางมาลิ้มลองความอร่อยของร้านอาหารมิชลินสตาร์อย่าง Cadence by Dan Bark สามารถเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวได้เลย ทางร้านมีสถานที่จอดรถรองรับ หรือถ้าเน้นความสะดวก ง่ายดาย สามารถมาด้วยรถไฟฟ้าได้เช่นกัน ลง BTS สถานีพระโขนง ใช้ทางออกที่ 1 แล้วตามหามอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือ Taxi 

บรรยากาศ 

Cadence by Dan Bark

เมื่อเราเดินทางมาถึงยังร้าน Cadence by Dan Bark ก็จะพบเข้ากับตัวอาคารทรงกล่องสี่เหลี่ยมอันแสนโดดเด่น หากย่างเท้าเข้าไปด้านในเราจะอยู่ที่บริเวณกึ่งกลางร้าน ซึ่งเขาแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองฝั่ง ด้านซ้ายมือคือ Caper by Dan Bark คือโซนบาร์สำหรับผู้ที่อยากลิ้มลองเครื่องดื่มสีอำพันทั้งหล่ายทั้งปวง ถูกตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเงิน แสงไฟสลัว และเก้าอี้สีแดงอันน่าสนใจ 

Cadence by Dan Bark

ส่วนด้านขวามือเป็น Cadence Restaurant ร้านอาหาร Fine dining ถูกตกแต่งด้วยสไตล์ Retro Glamourous อย่างพิถีพิถันเน้นความอบอุ่น มีเสน่ห์ หรูหรา แต่ก็ยังคงความทันสมัยเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุต่างๆ ในโทนสีเหลืองทอง กลมกลืนไปกับสีเบจ ขาว ตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์สีน้ำเงิน 

Cadence by Dan Bark

ไฮไลท์ของ Cadence by Dan Bark ยังคงอยู่ที่คัวแบบเปิดให้ลูกค้าได้ใกล้ชิดกับการทำอาหารและเห็นขั้นตอนต่างๆ ที่เชฟตั้งใจรังสรรค์ ส่วนที่นั่งแบ่งออกเป็นหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นโซนโซฟาโค้ง เหมาะสำหรับผู้มาเยือน 1-2 คน หรือชุดโต๊ะเก้าอี้ที่ถูกที่จัดเอาไว้เป็นเซ็ตสำหรับ 4-6 คน โดยรวมแล้วก็จัดว่าเหมาะสำหรับพาครอบครัวไปสังสรรค์ แต่ไม่ใช่งานเลี้ยงฉลองสำหรับหมู่คณะ 

แนะนำเมนูอาหาร 

Cadence by Dan Bark

อาหารจากร้าน Cadence by Dan Bark นั้นไม่ได้มีเพียงแค่สไตล์แบบอเมริกันเท่านั้น แต่ยังคงผสมผสานความน่าสวนใจของสไตล์เอเชีย และอื่นๆ ผสมผสานกันอย่างลงตัว ใครอยากลองไปทานบอกเลยว่าเขามีให้เลือกทั้งหมด 15 คอร์ส ( 4,300++ บาท) ทั้งนี้หากต้องการเครื่องดื่มแพริ่งก็จะต้องเพิ่มเงินเข้าไปอีกอย่างเช่นค็อกเทล ( 2,000++ บาท) หรือ ไวน์ (2,600++ บาท) 

Cadence by Dan Bark

มาเริ่มกันด้วยเมนูแนะนำจากร้านอาหาร Michelin Star อย่าง “Ocean” สื่อสารถึงท้องทะเลและได้แรงบันดาลใจมากจากเรือตกหมึกยามค่ำคืน จานนี้ครีเอทออกเป็นสามคำได้แก่ “หอยนางรมไอริช” สดใหม่ ท็อปด้วยมะนาวคาเวียร์ที่ปลูกในประเทศไทย ตามมาด้วยแตงกวาดองรสเปรี้ยว หวาน ลงตัว ตัดกับหอยได้เป็นอย่างดี คำที่ 2 จะเป็น “ข้าวเกรียบหน้าเนื้อปลาแซลมอน” ท็อปเฟนเนล และผักชีลาว คำเล็ก แต่กรอบ อร่อย สะใจ ตามมาด้วยคำที่ 3 อย่าง “Explosion ไวท์ช็อกโกแลต” ยัดไส้น้ำซอสเปรี้ยวหวาน

Cadence by Dan Bark

“Caviar” คืออีกหนึ่งเมนูที่จะมาสร้างความประทับใจแก่มวลมนุษยชาติ ทางร้าน Cadence by Dan Bark ได้คัดสรรค์คาเวียร์ชั้นดีจากฝรั่งเศส ทานคู่กับ Celeriac Purée ช่วยชูรสของคาเวียร์ให้ดูมันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีขนมปังกรอบและน้ำมันไชฟว์อีกด้วย 

Cadence by Dan Bark

เอาใจคนรักกุ้ง ไปพร้อมกับอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากญี่ปุ่นอย่าง “Red Shrimp” ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าอร่อย สมชื่อร้านดัง มิชลินสตาร์ ลักาณะจะเป็นซาชิมิกุ้งสีแดงอาร์เจนตินา เนื้อนุ่ม เด้ง ทานคู่กับวาซาบิ Nasturium Purée และแตงโม ได้กลิ่นตะไคร้ บัลซามิกคาเวียร์เพิ่มความเปรี้ยวหน่อย ราดซอสน้ำนมข้าวคั่ว หอมมาก ทานแล้วอบอวลอยู่ในปากแบบฟินๆ 

Cadence by Dan Bark

“Mushroom” เมนูนี้ทาง Cadence by Dan Bark ก็รังสรรค์ออกมาได้อย่างน่าสนใจและลงตัว ความเก๋ก็คือเขาใช้เทคนิคเครื่อง Syphon Coffee Maker สำหรับทำกาแฟมาทำน้ำซุปเห็ดที่มีส่วนผสมของตะไคร้ ผิวมะนาว รากผักชี ขิง และพริกไทยดำ ดึงรสชาติออกมาได้แบบสุดจัด ราดบนซอตโต้ข้าวบาร์เลย์ อันรายล้อมไปด้วยพูเรต้นหอม เจลลี่ไวน์แดงและเห็ดนางฟ้า 

Cadence by Dan Bark

ส่งท้ายกับของหวานอย่างเจ้า “Dark Chocolate” ซึ่งเขาจะใช้ช็อกโกแลตเข้มข้น 70% จากหลากหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นจากเอกวาดอร์ กาน่า และมาดากัสการ์ มารวมกับพวกฝักวานิลลา ทรัฟเฟิลวินิแกรต บีทรูทดอง ซัมเมอร์ทรัฟเฟิล รวมไปถึงอัลมอนด์มิลค์ 

ข้อมูลเพิ่มเติม 

เปิดร้าน : วันพุธ – ศุกร์ เวลา 17.00–23.00 น. / เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 12.00–15.0 น. และ 17.00–23.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์ – อังคาร)

โทร : 091-713-9034 

ที่จอดรถ : มี 

เว็บไซต์ : www.cadence-danbark.com 

Facebook : Cadence Restaurant by Dan Bark

ที่อยู่ : ซอยปรีดีพนมยงค์ 25 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 

พิกัด : https://goo.gl/maps/Vb869CzHc5wQ5rii6 

และนี่ก็คือทั้งหมดของการรีวิวร้านอาหาร ชื่อดังอย่าง Cadence by Dan Bark ที่เราได้นำมาฝากเพื่อนๆ ให้ทำความรู้จัก เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ร้านเขาน่าสนใจบ้างไหมเอ่ย แต่ละเมนูมาเป็นคอร์สที่เรียกได้ว่าจัดเต็มแบบจุก ๆ ราคราก็จุกมาเช่นกัน และหวังว่าเพื่อนๆ จะได้รับประโยชน์จากรีวิวของเรากันนะคะ 

ติดตามเรื่องราวอื่นๆ ได้ที่ EatAllAround

ทำความรู้จักกับ มิชลินสตาร์

About Author

king admin

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *