![Cadence by Dan Bark ร้านอาหาร Fine dining ระดับ Michelin Star](https://eatallaround.com/wp-content/uploads/2023/08/1-19-1024x576.jpg)
Cadence by Dan Bark ร้านอาหาร Fine dining ระดับ Michelin Star
หากกล่าวถึงร้านอาหาร Cadence by Dan Bark ก็เชื่อว่าหลายคนก็น่าจะพอรู้จักมักคุ้นกันอยู่บ้าง เพราะเขาเป็นร้านอาหารชื่อดังที่ได้รับรางวัล Michelin Star 1 ดวงมาการันตีความอร่อย กับรูปแบบอาหารอเมริกัน Fine dining ชวนลิ้มลอง หากคุณกำกำลังตามหารีวิวร้านนี้อยู่ก็อย่าได้พลาดสิ่งที่เรานำมาฝากในวันนี้เด็ดขาด!
ติดตามเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ Cadence by Dan Bark ร้านอาหารอเมริกัน ระดับ Michelin Star น่าสนใจ
![Cadence by Dan Bark](https://eatallaround.com/wp-content/uploads/2023/08/2-21-1024x682.jpg)
Cadence by Dan Bark เป็นร้านอาหารสไตล์ Progressive American Cuisine ที่ตั้งอยู่ในซอยปรีดีพนมยงค์ 25 บนถนนสุขุมวิท 71 ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยโอปป้าเกาหลีสัญชาติอเมริกันอย่างเชฟ Dan Bark บอกเลยว่าร้านอาหารชื่อดังแห่งนี้การการันตีความอร่อยจาก Michelin Star และยังอบอวลไปด้วยบรรยากาศหรูหรา แต่เรียบง่าย ดึงดูความสนใจประชาชนที่ชื่นชอบการทานอาหารเป็นคอร์สอย่างยิ่ง
วิธีการเดินทาง
สำหรับท่านที่อยากเดินทางมาลิ้มลองความอร่อยของร้านอาหารมิชลินสตาร์อย่าง Cadence by Dan Bark สามารถเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวได้เลย ทางร้านมีสถานที่จอดรถรองรับ หรือถ้าเน้นความสะดวก ง่ายดาย สามารถมาด้วยรถไฟฟ้าได้เช่นกัน ลง BTS สถานีพระโขนง ใช้ทางออกที่ 1 แล้วตามหามอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือ Taxi
บรรยากาศ
![Cadence by Dan Bark](https://eatallaround.com/wp-content/uploads/2023/08/3-19-1024x682.jpg)
เมื่อเราเดินทางมาถึงยังร้าน Cadence by Dan Bark ก็จะพบเข้ากับตัวอาคารทรงกล่องสี่เหลี่ยมอันแสนโดดเด่น หากย่างเท้าเข้าไปด้านในเราจะอยู่ที่บริเวณกึ่งกลางร้าน ซึ่งเขาแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองฝั่ง ด้านซ้ายมือคือ Caper by Dan Bark คือโซนบาร์สำหรับผู้ที่อยากลิ้มลองเครื่องดื่มสีอำพันทั้งหล่ายทั้งปวง ถูกตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเงิน แสงไฟสลัว และเก้าอี้สีแดงอันน่าสนใจ
![Cadence by Dan Bark](https://eatallaround.com/wp-content/uploads/2023/08/4-18-1024x682.jpg)
ส่วนด้านขวามือเป็น Cadence Restaurant ร้านอาหาร Fine dining ถูกตกแต่งด้วยสไตล์ Retro Glamourous อย่างพิถีพิถันเน้นความอบอุ่น มีเสน่ห์ หรูหรา แต่ก็ยังคงความทันสมัยเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุต่างๆ ในโทนสีเหลืองทอง กลมกลืนไปกับสีเบจ ขาว ตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์สีน้ำเงิน
![Cadence by Dan Bark](https://eatallaround.com/wp-content/uploads/2023/08/5-20-1024x682.jpg)
ไฮไลท์ของ Cadence by Dan Bark ยังคงอยู่ที่คัวแบบเปิดให้ลูกค้าได้ใกล้ชิดกับการทำอาหารและเห็นขั้นตอนต่างๆ ที่เชฟตั้งใจรังสรรค์ ส่วนที่นั่งแบ่งออกเป็นหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นโซนโซฟาโค้ง เหมาะสำหรับผู้มาเยือน 1-2 คน หรือชุดโต๊ะเก้าอี้ที่ถูกที่จัดเอาไว้เป็นเซ็ตสำหรับ 4-6 คน โดยรวมแล้วก็จัดว่าเหมาะสำหรับพาครอบครัวไปสังสรรค์ แต่ไม่ใช่งานเลี้ยงฉลองสำหรับหมู่คณะ
แนะนำเมนูอาหาร
![Cadence by Dan Bark](https://eatallaround.com/wp-content/uploads/2023/08/6-19-1024x682.jpg)
อาหารจากร้าน Cadence by Dan Bark นั้นไม่ได้มีเพียงแค่สไตล์แบบอเมริกันเท่านั้น แต่ยังคงผสมผสานความน่าสวนใจของสไตล์เอเชีย และอื่นๆ ผสมผสานกันอย่างลงตัว ใครอยากลองไปทานบอกเลยว่าเขามีให้เลือกทั้งหมด 15 คอร์ส ( 4,300++ บาท) ทั้งนี้หากต้องการเครื่องดื่มแพริ่งก็จะต้องเพิ่มเงินเข้าไปอีกอย่างเช่นค็อกเทล ( 2,000++ บาท) หรือ ไวน์ (2,600++ บาท)
![Cadence by Dan Bark](https://eatallaround.com/wp-content/uploads/2023/08/7-17-1024x682.jpg)
มาเริ่มกันด้วยเมนูแนะนำจากร้านอาหาร Michelin Star อย่าง “Ocean” สื่อสารถึงท้องทะเลและได้แรงบันดาลใจมากจากเรือตกหมึกยามค่ำคืน จานนี้ครีเอทออกเป็นสามคำได้แก่ “หอยนางรมไอริช” สดใหม่ ท็อปด้วยมะนาวคาเวียร์ที่ปลูกในประเทศไทย ตามมาด้วยแตงกวาดองรสเปรี้ยว หวาน ลงตัว ตัดกับหอยได้เป็นอย่างดี คำที่ 2 จะเป็น “ข้าวเกรียบหน้าเนื้อปลาแซลมอน” ท็อปเฟนเนล และผักชีลาว คำเล็ก แต่กรอบ อร่อย สะใจ ตามมาด้วยคำที่ 3 อย่าง “Explosion ไวท์ช็อกโกแลต” ยัดไส้น้ำซอสเปรี้ยวหวาน
![Cadence by Dan Bark](https://eatallaround.com/wp-content/uploads/2023/08/8-14-1024x682.jpg)
“Caviar” คืออีกหนึ่งเมนูที่จะมาสร้างความประทับใจแก่มวลมนุษยชาติ ทางร้าน Cadence by Dan Bark ได้คัดสรรค์คาเวียร์ชั้นดีจากฝรั่งเศส ทานคู่กับ Celeriac Purée ช่วยชูรสของคาเวียร์ให้ดูมันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีขนมปังกรอบและน้ำมันไชฟว์อีกด้วย
![Cadence by Dan Bark](https://eatallaround.com/wp-content/uploads/2023/08/9-6-1024x682.jpg)
เอาใจคนรักกุ้ง ไปพร้อมกับอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากญี่ปุ่นอย่าง “Red Shrimp” ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าอร่อย สมชื่อร้านดัง มิชลินสตาร์ ลักาณะจะเป็นซาชิมิกุ้งสีแดงอาร์เจนตินา เนื้อนุ่ม เด้ง ทานคู่กับวาซาบิ Nasturium Purée และแตงโม ได้กลิ่นตะไคร้ บัลซามิกคาเวียร์เพิ่มความเปรี้ยวหน่อย ราดซอสน้ำนมข้าวคั่ว หอมมาก ทานแล้วอบอวลอยู่ในปากแบบฟินๆ
![Cadence by Dan Bark](https://eatallaround.com/wp-content/uploads/2023/08/10-2-1024x682.jpg)
“Mushroom” เมนูนี้ทาง Cadence by Dan Bark ก็รังสรรค์ออกมาได้อย่างน่าสนใจและลงตัว ความเก๋ก็คือเขาใช้เทคนิคเครื่อง Syphon Coffee Maker สำหรับทำกาแฟมาทำน้ำซุปเห็ดที่มีส่วนผสมของตะไคร้ ผิวมะนาว รากผักชี ขิง และพริกไทยดำ ดึงรสชาติออกมาได้แบบสุดจัด ราดบนซอตโต้ข้าวบาร์เลย์ อันรายล้อมไปด้วยพูเรต้นหอม เจลลี่ไวน์แดงและเห็ดนางฟ้า
![Cadence by Dan Bark](https://eatallaround.com/wp-content/uploads/2023/08/11-1-1024x682.jpg)
ส่งท้ายกับของหวานอย่างเจ้า “Dark Chocolate” ซึ่งเขาจะใช้ช็อกโกแลตเข้มข้น 70% จากหลากหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นจากเอกวาดอร์ กาน่า และมาดากัสการ์ มารวมกับพวกฝักวานิลลา ทรัฟเฟิลวินิแกรต บีทรูทดอง ซัมเมอร์ทรัฟเฟิล รวมไปถึงอัลมอนด์มิลค์
ข้อมูลเพิ่มเติม
เปิดร้าน : วันพุธ – ศุกร์ เวลา 17.00–23.00 น. / เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 12.00–15.0 น. และ 17.00–23.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์ – อังคาร)
โทร : 091-713-9034
ที่จอดรถ : มี
เว็บไซต์ : www.cadence-danbark.com
Facebook : Cadence Restaurant by Dan Bark
ที่อยู่ : ซอยปรีดีพนมยงค์ 25 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
พิกัด : https://goo.gl/maps/Vb869CzHc5wQ5rii6
และนี่ก็คือทั้งหมดของการรีวิวร้านอาหาร ชื่อดังอย่าง Cadence by Dan Bark ที่เราได้นำมาฝากเพื่อนๆ ให้ทำความรู้จัก เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ร้านเขาน่าสนใจบ้างไหมเอ่ย แต่ละเมนูมาเป็นคอร์สที่เรียกได้ว่าจัดเต็มแบบจุก ๆ ราคราก็จุกมาเช่นกัน และหวังว่าเพื่อนๆ จะได้รับประโยชน์จากรีวิวของเรากันนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่นๆ ได้ที่ EatAllAround
ทำความรู้จักกับ มิชลินสตาร์