เชื่อว่าคงมีหลายคนที่ดูคลิปอาหาร street food ของชาวอินเดียแล้วก็อยากจะลองชิมอาหารอินเดียดูสักครั้งว่ารสชาติเป็นยังไงกันแน่ ด้วยความที่อินเดียขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเทศ กลิ่นอาหารจะแรงไหม รสชาติจะไปในทิศทางไหน วันนี้เรามีร้านอาหารอินเดียขึ้นชื่อในกรุงเทพฯ มาแนะนำ ก็คือร้าน Royal India (รอยัล อินเดีย) อยู่ที่ย่านพาหุรัด เป็นร้านเก่าแก่มากๆ อาหารก็หน้าตาน่ากิน ไปดูบรรยากาศและเมนูพิเศษของร้านกันเลยค่ะ
ติดตามเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ความพิเศษของร้าน Royal India ที่ทำให้คนไทยเปิดใจกินอาหารอินเดีย
ร้าน Royal India เป็นร้านอาหารอินเดียชื่อดังในย่านพาหุรัด เปิดให้บริการเป็นเจ้าแรกในเมืองไทย ตั้งแต่เมื่อประมาณ 45 ปีที่แล้ว เสิร์ฟเมนูอาหารอินเดียต้นตำรับ ไม่ว่าจะเป็นไก่ย่างทันดูริ เคบับ ซาโมซ่า แกงอินเดียหลากหลายชนิด ข้าวหมกไก่ ข้าวเบอร์ยานิและแป้งนาน เป็นร้านที่ทำให้ใครหลายๆคนเปิดใจให้กับอาหารอินเดียเลยค่ะ รสชาติอร่อยตามมาตรฐานของอาหารอินเดียที่ดี เครื่องแกงมีกลิ่นหอม อาหารหน้าตาน่ากิน เดินเข้าไปในร้านเพียงไม่กี่ก้าวก็ได้กลิ่นเครื่องเทศลอยมาเตะจมูกเลย ร้านอยู่ในบรรยากาศสบายๆเป็นกันเอง เหมือนนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน การันตีความอร่อยด้วยป้ายรางวัลที่มีตรารับรองจากหลากหลายสถาบัน ทำให้ร้านอาหารธรรมดาๆ ดูมีความพิเศษที่ซ่อนอยู่ข้างใน
หน้าร้านจะมีตู้กระจก ในตู้มีขนมอินเดียชิ้นเล็กๆ ตั้งเรียงรายอยู่มากมาย ลูกค้าร้านนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เจ้าของร้านเป็นคนอินเดีย รับออเดอร์ด้วยตัวเองด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้ม แนะนำเมนูอาหารได้ดีเลยทีเดียว ใครที่เพิ่งเคยลองกินอาหารอินเดียครั้งแรกก็สามารถบอกทางร้านได้เลย ให้ช่วยแนะนำเมนูสำหรับมือใหม่หัดชิมค่ะ
อร่อยกับอาหารอินเดียหลากหลายเมนู รสชาติต้นตำรับแท้ๆ
ที่ร้าน Royal India เมนูมีให้เลือกหลากหลาย แบ่งออกเป็นอาหารทานเล่น, อาหารชุด, เมนูไก่, เมนูแพะ, เมนูปลาและกุ้ง, ขนมปัง/โรตีอินเดีย, ของหวานเครื่องดื่ม ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 150-300 บาท ทุกจานล้วนแต่เป็นอาหารโฮมเมด ทำเองทุกขั้นตอน คัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี เพื่อให้คนที่ชอบกินอาหารอินเดีย และคนที่อยากลองเปิดใจให้อาหารอินเดียได้มีความสุขกับรสชาติที่สุดแสนจะพิเศษแบบนี้ มาดูเมนูแนะนำที่มาแล้วต้องสั่งกันค่ะ
ในส่วนของเครื่องดื่มยกให้ 2 เมนูนี้เลย Masala Tea หรือชาอินเดียราคา 40 บาท หน้าตาเหมือนชาไทยบ้านเรา เป็นชานมร้อนจืดหอมกลิ่นชาอ่อนๆ ผสมเครื่องเทศแบบอินเดีย หลายคนอาจคิดว่ารสชาติจะไม่เข้ากันเพราะว่าเครื่องเทศจะมาอยู่ในเครื่องดื่มได้ยังไง แต่จริงๆแล้วรสชาติเข้ากันมากๆค่ะ กลิ่นนมกับสมุนไพรที่หอมสดชื่นฉีกกดชาไทยแบบเดิมๆไปเลย ใครที่ชอบหวานก็จะมีกระปุกน้ำตาลไว้ให้ใส่เพิ่ม แต่ต้นฉบับก็รสชาติกลมกล่อมอยู่แล้ว
อีกหนึ่งเมนูขอยกให้ Lassi หรือนมเปรี้ยวปั่นรสชาติหวานเค็ม โยเกิร์ตเข้มข้นเพราะเป็นโยเกิร์ตที่หมักเอง นำมาปั่นใส่น้ำแข็ง ปรุงรสให้มีความเปรี้ยว มัน เข้มข้น กลิ่นนมจะแรงหน่อย แต่ถ้าใครรับได้เมนูนี้จะพิเศษเลยค่ะ
เมนูของคาวจาก Royal India ก็โดดเด่นมากๆเริ่มกันที่เมนูแรก Chicken Leg Tandoori น่องไก่ย่างหมักด้วยโยเกิร์ต เป็นส่วนสะโพกไก่ติดน่อง เนื้อชุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นเครื่องเทศ เนื้อไก่นุ่มมาก รสชาติหวานเค็มอ่อนๆ กินกับข้าวหมกไก่ร้อนๆ เข้ากันดีมากๆเลย ราคา 110 บาท
Chicken Biryani ข้าวหมกไก่ราคา 195 บาท รสชาติคล้ายข้าวหมกไก่แบบปักษ์ใต้ แต่เพิ่มความหวานเปรี้ยวกลมกล่อมด้วยหอมใหญ่กับมะเขือเทศ หอมเครื่องเทศอ่อนๆ ไม่ฉุน ข้าวร่วนไม่แฉะ ใครที่อยากลองเริ่มกินเมนูอาหารอินเดียจานแรกต้องเมนูนี้เลย
ปานีปูรี เป็นเมนูที่ดังมากๆเลยในโซเชียล มักจะเห็นเมนูนี้ใน street food ของอินเดียอยู่บ่อยๆ ของทานเล่นที่เป็นแป้งกรอบๆ ทรงกลม เสิร์ฟคู่กับไส้มันฝรั่งปานีปูรี และซอสปานีปูรีแบบหวานกับเปรี้ยว วิธีกินก็คือใช้ช้อนกะเทาะแป้งกลมๆให้แตก ด้านในจะเป็นช่องว่างกลวงๆ แล้วใส่ไส้มันฝรั่งพร้อมกับราดซอสลงไป เป็นของกินเล่นที่กินแล้วรู้สึกสดชื่น
ส่วนใครที่ติดตามรีวิวอาหารอินเดียอยู่บ่อยๆก็มักจะเห็นคนอินเดียกินแกงกับแผ่นแป้งบางๆ ซึ่งปกติแล้วคนไทยจะกินคู่กับข้าวสวย แต่มาดูวิธีกินของคนอินเดียกันค่ะ ชุดนี้จะเป็นการลองกินอาหารอินเดียแบบครบวงจร ใครที่อยากลองกินอาหารอินเดียแบบครบๆ แต่กินชามใหญ่ไม่ไหวแนะนำให้สั่งเป็นชุด Non Vegetarian Thali ราคา 370 บาท ในชุดจะประกอบด้วย
• ไก่ย่างแดง รสชาติเหมือน chicken tandoori
• ซับยี่ เป็นแกงเจใส่เครื่องเทศน้ำใสๆ ด้านในเป็นถั่วลูกไก่
• แกงเจ ใส่มันฝรั่ง ถั่วลันเตา รสชาติหอมมัน น้ำแกงเข้มข้น
• แกงกะหรี่แพะ รสชาติเข้มข้น หอมเครื่องเทศ เผ็ดไม่มาก
• ข้าวผัดยี่หร่า ข้าวหุงเครื่องเทศแบบอินเดีย หอมกลิ่นสมุนไพร
• ซอสมินท์ ซอสรสเปรี้ยว หอมกลิ่นใบสะระแหน่
• ปาปาดัม (ข้าวเกรียบอินเดีย), โรตี, แป้งนาน สามารถเลือกได้ 1 อย่าง
แป้งนาน (ขนมปังอินเดีย) ที่ร้าน Royal India มีให้เลือกหลายแบบเลยค่ะ แต่ขอแนะนำ 3 ชนิดที่ต้องชิมให้ได้ อันดับแรกคือ Butter Roti โรตีเนยกรอบนอกด้านในเหนียวหนึบ หอมกลิ่นเนยมากๆ ราคาเพียง 20 บาทเท่านั้น ต่อมาคือ Paneer Nan แป้งโรตีสอดไส้ชีส ราคา 85 บาท ชีสค่อนข้างหอม เหมือนชีสก้อนย่างแบบอินเดีย มีรสเค็มนิดๆ เคี้ยวหนึบๆ และอีกหนึ่งชนิดที่ต้องสั่งก็คือ Aaloo Parantha แป้งนานสอดไส้มันบดปรุงรสทรงเครื่อง มีความเหนียวหนึบจากแป้ง และความหอมของมันฝรั่ง เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านด้วย
ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานจากร้าน Royal India ขนมหวานของไทยว่ามีเยอะแล้ว ของอินเดียก็ไม่แพ้กันเลยค่ะ แต่ละอย่างหน้าตาน่ากินทั้งนั้นเลย ส่วนใหญ่จะเป็นขนมแห้งๆ เป็นชิ้นๆ สีสันสวยงาม เริ่มจากกุหลาบจามุน ขนมหวานขึ้นชื่อของอินเดีย ทำมาจากแป้งคล้ายแป้งหอมเนย กลิ่นดอกไม้หอมสดชื่น รสชาติหวานมาก ใครที่ไม่ชอบกินหวานอาจจะต้องเลี่ยงชิ้นนี้ หรือใครที่ชอบความหวานมัน หอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆต้อง ราสมาลัย เป็นชีสที่ทางร้านทำเอง แช่ในน้ำเชื่อม เสิร์ฟพร้อมนมสดและพิสตาชิโอ รสชาติหวานมันกำลังดี จริงๆแล้วขนมอินเดียรสชาติเหมือนกันแทบจะทุกชนิดเลย มีรสชาติหวานนำ มีกลิ่นนม บางชิ้นผสมถั่วได้ความมันเพิ่มขึ้นไปอีก ขนมชิ้นเล็กๆที่อยู่ในตู้ของร้าน Royal India ราคาชิ้นละ 15 บาทเท่านั้นเองค่ะ
ใครอยากลองชิมอาหารอินเดียแบบต้นตำรับลองแวะไปได้เลย มีหลายสาขาค่ะ ทั้ง Royal India สาขาพารากอน ชั้น G, สาขาเอ็มโพเรียม, สาขาเอ็มควอเทียร์ แต่ถ้าใครอยากกินแบบต้นตำรับ ได้อารมณ์ถึงความเก่าแก่ต้องไปที่สาขาแรก Royal India พาหุรัด เลยค่ะ ไปตามพิกัดนี้ได้เลย
พิกัด : 392/1 ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดบริการทุกวัน : 10:30 – 22:00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 02-221-6565
facebook : https://www.facebook.com/royalindiabkk/
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ EatAllAround