มิชลินสตาร์ คืออะไร? เจาะความหมาย พร้อมเกณฑ์ที่คุณต้องรู้!!
เชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบการดูรีวิวร้านอาหาร และหลงใหลในเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารต้องได้ยินคำว่ามิชลินสตาร์ ผ่านหูกันมาบ้าง เคยสงสัยกันไหมว่ามันคืออะไร ทั้งที่ Micheline ก็เป็นบริษัทเกี่ยวกับยางรถยนต์ แต่ทำไมถึงมาเกี่ยวข้องกับอาหารได้นะ แล้วระดับดาวของแต่ละร้านมีความหมายว่าอย่างไรบ้าง ตามพวกเรามาไขข้อสงสัยไปพร้อมกันเลยดีกว่า!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
มิชลินสตาร์ (Michelin Star) คืออะไร?
มิชลินสตาร์ คือรางวัลร้านอาหารที่แสดงถึงคุณภาพและความเป็นเลิศของรสชาติ ถือเป็นเกณฑ์ในระดับสากลที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไป ซึ่งจุดกำเนิดของตราการันตีคุณภาพนี้เกิดขึ้นจากกุศโลบายของบริษัทยางรถยนต์ระดับโลกอย่าง MICHELINE ที่อยากให้พนักงานขับรถได้มีโอกาสแวะพักผ่อน ขับรถออกไปเที่ยวนอกบ้าน ตระเวนชิมอาหารแสนอร่อย และใช้ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ของเขามากยิ่งขึ้น ทางบริษัทจึงปิ๊งไอเดีย จัดทำหนังสือหน้าปกสีแดงที่มีชื่อว่า The Michelin Guide ขึ้นมาเพื่อแนะนำรีวิวร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และโรงแรมโดยคร่าว ๆ
และในเวลาต่อมาก็ได้มีการมอบรางวัลแก่ร้านอร่อย ซึ่งประเพณีดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี 2006 ร้านไหนของอร่อย ได้มาตรฐานก็จะถูกมอบดาวซึ่งมีตั้งแต่ 1-3 ดวง ที่มีความหมายแตกต่างกันออกไป แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะให้มิชลินสตาร์แบบมั่วนิ่มหรอกนะ กว่าแต่ละร้านจะได้มา มีเกณฑ์การตัดสินแบบเข้มข้น วัดผลในระยะยาวเลยนะขอบอก
ความหมายของดาวมิชลิน
– Michelin 1 Star ร้านที่ได้ดาวหนึ่งดวงจากมิชลิน หมายความว่าเป็นร้านอาหารอร่อย คุณภาพสูง ควรค่าแก่การจอดรถแวะรับประทานอย่างยิ่ง
– Michelin 2 Star ร้านที่ได้ดาว 2 ดวงจากมิชลินเรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารยอดเยี่ยม น่าสนใจ จนกระทั่งต้องขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อตามหาร้านนั้น และลองไปชิมสักครั้งในชีวิตเลยล่ะ!!
– Michelin 3 Star ร้านที่ได้ดาว 3 ดวง ก็ต้องเป็นสุดยอดของร้านอาหาร ที่ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหน แห่งหนตำบลใด ก็คุ้มค่าหากต้องเดินทางไกลเพื่อไปลิ้มลองรสชาติอันโอชา
อยากได้มิชลินสตาร์ ต้องทำอย่างไร?
รางวัลมิชลินสตาร์ จะได้มาจากการสำรวจของทางบริษัทมิชลินเองเท่านั้น ไม่มีใครสามารถลงแข่งขัน หรือทำเรื่องขอให้นักสำรวจเข้ามาชิมอาหารของทางร้านได้ เว้นเสียแต่จะเข้าไปในเฟซบุ๊ก Michelin Guide Thailand และบอกต่อร้านอร่อยทาง Inbox ในเชิงแนะนำ หากทีมงานสนใจก็อาจจะแวะเวียนไปลองชิมอาหารจากนั้นนั้น ทว่าเรากลับไม่มีทางรู้เลยว่าใครคือนักสำรวจจากทางมิชลิน
เกณฑ์การสำรวจและตัดสินของมิชลินสตาร์
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่านักชิมที่เป็นไกด์จากทางมิชลิน จะเข้าไปลองทานอาหารในฐานะลูกค้าธรรมดาทั่วไป โดยที่เราไม่มีโอกาสรู้เลยว่าคนไหนกันนะคือไกด์จากมิชลิน แล้วเขาจะมาวันไหน ในหนึ่งปีไกด์จะมาทานอาหารร้านเดิมประมาณ 3-4 รอบ เพื่อตรวจสอบความสม่ำเสมอของรสชาติอาหาร ก่อนตัดสินใจให้ดาว ถือเป็นอาชีพที่ค่อนข้างลึกลับ ซับซ้อน และต้องมีความรู้ด้านอาหารมากพอตัว ซึ่งการตัดสินจะเน้นไปที่อาหาร และไม่สนใจบรรยากาศร้านเลยสักนิดว่าจะเป็นเช่นไร ภายใต้เกณฑ์ดังต่อไปนี้
– วัตถุดิบที่มีคุณภาพ สดใหม่
– เอกลักษณ์เฉพาะตัวของรสชาติอาหารของร้านนั้น ๆ ในแต่ละจาน
– เทคนิคการประกอบอาหารและความโดดเด่นของรสชาติ
– ราคาที่ต้องจ่าย คุ้มค่าหรือไม่?
– ความคงที่ของรสชาติอาหาร ซึ่งไกด์จะแวะมาชิมอาหารประมาณ 3-4 ครั้งในระยะเวลา 1 ปี ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น
และนอกเหนือจากที่ได้กล่าวมา ทางมิชลินเองก็ยังมีอีกเกณฑ์หนึ่งที่นำมาประกอบการตัดสินใจอยู่เสมอนั่นก็คือ “จดหมายจากลูกค้าที่เขียนถึงมิชลินไกด์” เห็นแบบนี้ก็ใช่ว่ารางวัลมิชลินสตาร์จะคงอยู่ถาวร เพราะเหล่าไกด์ก็จะออกตระเวนชิมอาหารร้านเดิมซ้ำ ๆ เพื่อรักษาไว้ซึ่งคุณภาพ อาจมีการเพิ่มดาว ลดดาวลง หรือหนักที่สุดก็คือ ยืดดาวคืน ซึ่งนี่ก็เป็นข้อเสียอย่างหนึ่งที่ทำให้บรรดาเชฟชื่อดังที่เปิดร้านเป็นของตนเอง ประกาศตัวไม่ยอมรับรางวัลจากบริษัทยางรถยนต์ เพราะถ้าหากถูกยึดรางวัลคืนเมื่อไหร่ก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของร้านเสียหาย ขาดความน่าเชื่อถือเอาได้ง่าย ๆ
รางวัลอื่น ๆ จากมิชลิน
เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่านอกเหนือจากการให้ดาวแก่ร้านอาหารแล้ว มิชลินก็ยังมีรางวัลอื่น ๆ มาการันตีอีกด้วย อาทิเช่น รางวัลบิบ กูร์มองด์ (Bib Gourmand) ร้านที่ได้รับสัญลักษณ์ตุ๊กตาตัวสีขาว หมายถึงร้านโปรดของเหล่านักชิมจากมิชลิน ที่เน้นเสิร์ฟอาหารคุณภาพเต็มสิบ ในราคาไม่เกิน 1,000 บาท ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรางวัลน่าสนใจจากบริษัทนี้เลยทีเดียว
5 อันดับประเทศที่ได้รับรางวัลจากมิชลินมากที่สุด
1.ฝรั่งเศส
2.ญี่ปุ่น
3.อิตาลี
4.เยอรมัน
5.สหราชอาณาจักร
และนี่ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับมิชลินสตาร์ ที่เชื่อว่าหลายคนกำลังสงสัยและอยากรู้ว่า มันคืออะไรกันแน่ รางวัลจากมิชลินนั้นครอบคลุมประเทศฝั่งตะวันตกมากกว่าเอเชีย ทางฝั่งบ้านเราจึงมีเพียงแค่ไม่กี่ประเทศ ซึ่งประเทศที่เด่น ๆ เน้นไปที่ญี่ปุ่น จีน อินเดีย สิงคโปร์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ และประเทศไทยที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีอาหารที่โดดเด่นที่สุดในโลก แต่กลับยังได้รับรางวัลน้อยกว่าต่างประเทศอยู่มาก หากเพื่อน ๆ อยากมีส่วนร่วมในการผลักดันรางวัล ก็อย่าลืมแนะนำร้านอาหารเด็ดที่เรารักไปทาง Inbox ของเฟซบุ๊ก Michelin Guide Thailand กันนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่ EatAllAround
